AUTODESK INVENTOR
ลักษณะของโปรแกรม
Autodesk Inventor เป็นโปรแกรมเขียนแบบทางวิศวกรรมที่เน้นหนักไปทางด้านของเครื่องกลเป็นส่วนใหญ่ แต่ถ้าหากต้องการการทำงานในด้านอื่น ๆ เช่น งานสถาปัตยกรรม , งานออกแบบเฟอร์นิเจอร์ , งานเกี่ยวกับ Automotive , งานรูปทรงอิสระก็ ทำได้แต่คงไม่เหมาะเท่าไหร่นักหากเทียบกับโปรแกรมตัวอื่น ๆ
ซึ่งโปรแกรม Inventor นั้นจะเป็นลักษณะของการเขียนแบบ 3D โดยจะเน้นหลักการการทำงานที่ว่า
“เขียนลำบาก แต่แก้ไขได้ง่ายมาก”
โดยจะสังเกตได้จากผู้ใช้งานที่เคยใช้งาน AutoCAD มาก่อน ก็อาจจะรู้สึกว่าการเขียนด้วยโปรแกรมเขียนแบบ 3D นั้นยุ่งยากกว่าเพราะหลักการเขียนจะแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง แต่หากเขียนงานขึ้นมาแล้วต้องการที่จะแก้ไขนั้นผู้เขียนบอกได้เลยว่า Inventor นั้นง่ายมาก และใช้เวลาสั้นกว่าหลายเท่าตัว
การทำงานด้วยโปรแกรมเขียนแบบ Autodesk Inventor นั้น สามารถทำได้ ทั้งลักษณะงานที่เป็นชิ้นเดียว หรือจะนำชิ้นส่วนหลาย ๆ ชิ้นมาประกอบกันก็ได้ และในการประกอบกันของชิ้นส่วนนั้น ก็ยังสามารถกำหนดได้อีกว่าต้องการประกอบกันแบบธรรมดา หรือแบบเชื่อมประกอบ และในขั้นตอนของการประกอบชิ้นส่วนนั้นก็ยังง่ายมาก ๆ อีกด้วย
ซึ่งในส่วนของโปรแกรม Autodesk Inventor นั้นแบ่งออกเป็น 3 Series นั่นก็คือ
– Inventor LT
o เน้นไปในงานที่ผู้เขียนต้องการเขียน Part ง่าย ๆ ชิ้นเดียว หรือ 1 ชิ้น 1 งาน เช่น เขียนขึ้นมาแล้วจะเอาแบบไปทำ CAM หรืองาน CNC ต่อ หรือนำไปให้ขนาดรายละเอียดในงาน กลึง งานมิลลิ่ง แบบ Manual ก็เพียงพอแล้ว
– Inventor
o ไม่มีชื่อใด ๆ ตามหลัง นั่นคือ Inventor ธรรมดา สามารถทำทุกอย่างได้เหมือน Inventor LT แต่สามารถทำงาน Assembly หรือนำชิ้นส่วนที่เขียนไว้มาประกอบเข้าด้วยกันเป็นเครื่องจักร เครื่องหนึ่งได้ รวมถึงมีชิ้นส่วนมาตรฐานเช่น น๊อต , สกรู , ข้อต่อ , ข้องอ , ฟิตติ้ง, เฟือง, สปริง ขนาดต่าง ๆ
– Inventor Pro
o เหมือนกับ Inventor ธรรมดา แต่จะมีฟังก์ชั่น FEA (Finite Element Analysis) เพิ่มเข้ามา ก็คือสามารถวิเคราะห์ ความเค้น (Stress) แบบไม่เป็นเชิงเส้น (Non-Linear) ภายในชิ้นส่วนได้ หรือจะเป็นการวิเคราะห์ความเค้นที่เกิดจากการเคลื่อนที่ (Dynamic Simulation) ได้ โดยทั้งหมดนี้คำสั่งจะถูกกำหนดมาให้ทำงานได้อย่างง่ายผู้ใช้มีความรู้ทางวิศวกรรมสามารถอ่านค่า กำหนดค่าได้ ก็สามารถใช้งานได้อย่างไม่มีปัญหา
ข้อดี
– โปรแกรม Autodesk Inventor เป็นโปรแกรมที่ผู้ใช้สามารถใช้งานได้ง่ายมาก โดยไม่จำเป็นต้องเคยใช้งานมาก่อน เพียงแต่ผู้ใช้ต้องอ่านแบบเป็น หรือมีพื้นฐานทางด้านการเขียนแบบมาบ้างเท่านั้น (ถึงจะไม่เกี่ยวกับโปรแกรมโดยตรงแต่ก็ควรจะมีนะครับ)
– มีหน้าจอการทำงาน (User Interface) ที่ใช้งานง่าย โดยลักษณะจะคล้ายกับหน้าจอของ Microsoft Office ที่ทั่วโลกนิยมใช้กัน หรือเรียกว่า Ribbon ทำให้ผู้ใช้คุ้นเคยกับสภาพแวดล้อมของหน้าจอแบบนี้อยู่แล้วจึงไม่ต้องปรับตัวนาน
– การควบคุมมุมมอง หรือการทำงานมีวิธีการให้เลือกหลากหลายวิธี
- เป็นโปรแกรมค่ายเดียวกันกับ AutoCAD ที่เป็นโปรแกรมเขียนแบบระดับโลกที่ได้รับการยอมรับว่าดีที่สุดในโลกในด้านการเขียนแบบ 2D อีกทั้งหลาย ๆ โปรแกรมที่มีมีคามหลากหลายในการทำงาน ทำให้การแปลงไฟล์ให้เข้ากันหรือให้โปรแกรมตัวอื่น ๆ เปิดได้ง่ายนั้นทำได้อย่างราบรื่นไม่มีปัญหา
ข้อเสีย
– ใช้ทรัพยากรของเครื่องค่อนข้างสูง และในอนาคตอันใกล้จำเป็นที่จะต้องใช้งานบน Windows 64 Bit ซึ่ง ณ ปัจจุบันก็ควรใช้หากงานของคุณเป็นงานลักษณะที่ค่อนข้างมีขนาดใหญ่มาก ๆ (1,000 ชิ้นส่วนประกอบ)
– รองรับเฉพาะ Windows OS
– งานลักษณะรูปทรงอิสระ (Freeform) อาจจะต้องเป็น Version ล่าสุด 2015 เท่านั้น อาจจะสามารถรองรับความต้องการของผู้ใช้ได้มากเท่าที่ต้องการ
เหมาะสำหรับงานประเภทใด
Inventor LT : งานชิ้นเดียว ไม่มีการประกอบกันของชิ้นงาน ต้องการเพียงแค่ Model 3D และ Drawing เท่านั้น , โรงกลึง
Inventor : งานชิ้นเดียว , หลายชิ้นมาประกอบกัน , งานสร้างเครื่องจักร , งานโครงสร้างไม่ซับซ้อน
Inventor Pro : งานสร้างเครื่องจักรที่มีความจำเป็นต้องวิเคราะห์ความแข็งแรงของชิ้นส่วน และความแข็งแรงของโครงสร้าง
ราคา
7,295 เหรียญ (อ้างอิงจาก www.autodesk.com)
ดาวน์โหลด
ONE2UP
FILECONDO
RABBITFILE






0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น